HomeTechnologyCars & Enginesปัญญาประดิษฐ์คว้าชัยชนะในการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกที่อาบูดาบี

ปัญญาประดิษฐ์คว้าชัยชนะในการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกที่อาบูดาบี

Logo

  •  โดรน AI เอาชนะนักบินที่เป็นมนุษย์ในการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่มีความท้าทายและซับซ้อนที่สุดซึ่งจัดขึ้นโดย A2RL x DCL Autonomous Drone Championship ถือเป็นการก้าวล้ำครั้งสำคัญในนวัตกรรมการบินอัตโนมัติ
  •  ผู้ชมกว่า 2,500 คนรับชมการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่เก่งกาจที่สุดเพื่อชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐในรูปแบบการแข่งขันสุดล้ำสมัย 4 รูปแบบ
  •  MavLab (TU Delft) ครองแชมป์ชัยชนะ 3 รายการในการแข่งขัน AI Grand Challenge, AI Drag Race และ AI Vs Human ขณะที่ TII Racing (สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี อาบูดาบี) คว้าชัยชนะในการแข่งขัน AI Multi-Autonomous Drone Race

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2025

Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ร่วมมือกับ Drone Champions League (DCL) จัดงานแข่งขัน A2RL x DCL Autonomous Drone Championship ครั้งแรกในตะวันออกกลางที่ ADNEC Marina Hall เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านการบินอัตโนมัติและหุ่นยนต์ทางอากาศ โดรน AI ของทีม MavLab สามารถแซงหน้านักบินมนุษย์ชั้นนำของโลกและคว้าชัยชนะในการแข่งขัน AI vs Human Challenge ได้สำเร็จ การแข่งขันแบบตัวต่อตัวครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีผู้เข้าชิงรางวัลชนะเลิศจาก DCL Falcon Cup ซึ่งบางท่านเป็นนักบินโดรนชั้นนำของโลก

Artificial Intelligence Triumphs in World’s Most Sophisticated Autonomous Drone Race in Abu Dhabi (Photo: AETOSWire)

ปัญญาประดิษฐ์คว้าชัยชนะในการแข่งขันโดรนอัตโนมัติที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกที่อาบูดาบี (ภาพถ่าย: AETOSWire)

ตลอดระยะเวลา 2 วันที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น ทีมจากนานาประเทศ 14 ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดย 4 ทีมแรกจะได้เข้าไปแข่งขันในรูปแบบการแข่งขันที่ท้าทายหลากหลายรูปแบบ ทีมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย เกาหลีใต้ สาธารณรัฐเช็ก เม็กซิโก ตุรกี จีน สเปน แคนาดา และสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแทนฝ่ายห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และผู้ริเริ่มนวัตกรรมสตาร์ทอัพ

แต่ละทีมจะแข่งขันด้วยโดรนมาตรฐานที่ติดตั้งโมดูลคอมพิวเตอร์ NVIDIA Jetson Orin NX ขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง กล้องที่หันไปข้างหน้า และหน่วยวัดแรงเฉื่อย (IMU) สำหรับการรับรู้และควบคุมบนโดรน โดรนเหล่านี้อาศัยการประมวลผลแบบเรียลไทม์และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนโดย AI เพียงอย่างเดียว เพื่อทำความเร็วเกิน 150 กม./ชม. ในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องอาศัยอินพุทจากมนุษย์

การออกแบบสนามแข่งได้ขยายขอบเขตระบบไร้คนขับ โดยมีระยะห่างระหว่างเกต แสงสว่างที่ไม่สม่ำเสมอ และเครื่องหมายที่มองเห็นได้น้อยที่สุด การใช้กล้องชัตเตอร์แบบโรลลิ่งทำให้การแข่งขันมีความยากมากขึ้น โดยทดสอบความสามารถของแต่ละทีมในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเสถียรภายใต้เงื่อนไขที่ท้าทาย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขันโดรนไร้คนขับในระดับและความซับซ้อนเช่นนี้บนสนามแข่งที่มีภาพไม่ชัดเจน ซึ่งเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานและความท้าทายทางเทคนิคของการแข่งขันครั้งนี้

ไฮไลท์การแข่งขันชิงรางวัล

  •  ผู้ชนะการแข่งขัน AI Grand Challenge : MavLab (TU Delft) ทำลายสถิติเวลาที่เร็วที่สุดในสนามแข่ง 170 เมตร โดยวิ่ง 2 รอบ (22 เกต) ในเวลาเพียง 17 วินาที
  •  ผู้ชนะการประลอง AI vs Human : โดรนไร้คนขับของ MavLab แซงหน้านักบินมนุษย์ชั้นนำในการเผชิญหน้าระหว่าง AI กับมนุษย์อันเป็นที่จดจำ
  •  ผู้ชนะการแข่งขันมัลติโดรนไร้คนขับ : TII Racing คว้าชัยชนะในการแข่งขันรูปแบบมัลติโดรน ในการทดสอบความเร็วสูงของการประสานงาน AI และการหลีกเลี่ยงการชน
  •  ผู้ชนะการแข่งขันแดร็กไร้คนขับ : MavLab (TU Delft) คว้าชัยชนะในการแข่งขันแดร็กที่ใช้ระบบ AI ครั้งแรกของโลก โดยแสดงให้เห็นถึงความเร็วในแนวตรงและการควบคุมภายใต้การเร่งความเร็วสูง โดยแข่งกับทีมชั้นนำของแชมเปี้ยนชิพ

“ที่ ATRC เราเชื่อว่านวัตกรรมต้องได้รับการพิสูจน์ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่คำสัญญา” H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้านการวิจัยเชิงกลยุทธ์และกิจการเทคโนโลยีขั้นสูง และเลขาธิการ ATRC กล่าว “A2RL ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นสนามทดสอบระดับโลกสำหรับระบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการพัฒนา AI หุ่นยนต์ และระบบการเคลื่อนที่เจนถัดไปอย่างมีความรับผิดชอบ”

“อนาคตของการบินไม่ได้อยู่ในห้องทดลอง แต่อยู่ในสนามแข่ง” Stephane Timpano ซีอีโอของ ASPIRE ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Abu Dhabi Autonomous Racing League กล่าว “สิ่งที่เราเห็นเมื่อสุดสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า เราเข้าใกล้การปรับขนาดระบบไร้คนขับในชีวิตประจำวันมากขึ้น” Markus Stampfer, ประธานกรรมการบริหาร DCL กล่าวเพิ่มเติม: “เรานำเงื่อนไขการแข่งขันระดับสูงมาสู่การบินไร้คนขับ และ AI เข้ามารับความท้าทายนี้ นับเป็นก้าวสำคัญทั้งในด้านกีฬาและเทคโนโลยี”

ความภาคภูมิใจหลังคว้าแชมป์ 3 รายการรวดChristophe De Wagter หัวหน้าทีม MavLab กล่าว “การชนะการแข่งขัน AI Grand Challenge และการแข่งขัน AI vs Human ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทีมของเรา ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ผลการวิจัยและการทดลองหลายปีเกี่ยวกับการบินไร้คนขับ อัลกอริทึมของเรามีประสิทธิภาพเหนือกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกดดันสูงเช่นนี้และคว้าเงินรางวัลกลับบ้านไปมากที่สุด ถือเป็นรางวัลที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง”

โครงการ A2RL X DCL Drone STEM ซึ่งออกแบบร่วมกับ UNICEF และอยู่ภายใต้การดูแลของ ATRC ได้ฝึกอบรมนักเรียนชาวเอมิเรตส์ไปแล้วกว่า 100 คนในปีนี้ นักเรียนกว่า 60% ได้รับการรับรองจาก Trusted Operator Program อันทรงเกียรติ และ 24 คนได้คะแนนเต็ม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะการบินขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

ในวันนี้ การแข่งขันโดรนรอบชิงชนะเลิศได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกๆ คนต่างจับตาไปที่การแข่งขันรถยนต์ไร้คนขับ A2RL ซีซั่นที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina Circuit ในอาบูดาบี

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

https://www.businesswire.com/news/home/20250416147445/en

Contacts

Thushara Mohanan
thushara.mohanan@tii.ae

ที่มา: Technology Innovation Institute

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments