บอสตัน, แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–25 พฤษภาคม 2566
Gradiant ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงระดับโลกได้ประกาศความร่วมมือกับ SLB (เดิมคือ Schlumberger), Rio Tinto และบริษัทเหมืองแร่ระดับโลกของออสเตรเลีย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่โดยมุ่งเน้นที่การลดรอยเท้าคาร์บอนและน้ำ ซึ่งโครงการเหล่านี้อยู่ในสหรัฐอเมริกาและรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียสำหรับการกู้คืนทรัพยากรแร่ธาตุที่สำคัญและน้ำในกระบวนการอุตสาหกรรม
โดยความร่วมมือระหว่าง Gradiant กับ SLB และบริษัทเหมืองระดับโลกของออสเตรเลียมีเป้าหมายที่จะกู้คืนโลหะมีค่า เช่น ลิเธียม นิกเกิล และโคบอลต์ ซึ่งเป็นโลหะที่จำเป็นในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ การทำเหมืองวัสดุเหล่านี้มีความซับซ้อนสูงและใช้น้ำมาก ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้นและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ธุรกิจต้องเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีความคุ้มค่าและส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งเทคโนโลยีของ Gradiant ช่วยให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพและประหยัดซึ่งเป็นโซลูชันที่ถูกปรับปรับแต่งโดย Gradiant ตั้งแต่ต้นจนจบ
งานของ Gradiant กับ SLB ผสานรวมเทคโนโลยีของ Gradiant เพื่อรวมสารละลายลิเธียมเข้ากับการสกัดลิเธียมโดยตรง (DLE) และกระบวนการผลิตของ SLB ซึ่งช่วยลดเวลาในการออกสู่ตลาดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการสกัดลิเธียม ซึ่งโซลูชันนี้มีผลต่อกระบวนการสกัดลิเธียมที่ยั่งยืนโดยทำให้ความเข้มข้นของลิเธียมอยู่ในระดับสูงในเวลาเพียงเศษเสี้ยวของเวลาที่ต้องใช้โดยวิธีทั่วไป ในขณะเดียวกันจะลดการปล่อยคาร์บอน ลดการใช้พลังงาน และลดต้นทุน เมื่อเทียบกับวิธีการที่ใช้ความร้อน
สำหรับ Rio Tinto นั้น Gradiant จะส่งมอบโรงงานแห่งใหม่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเพื่อแทนที่โรงงานเก่า โดยใช้เทคโนโลยีเมมเบรน RO Infinity ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทและ SmartOps Digital AI ในการดำเนินการขุด Gradiant ได้นำสองเทคโนโลยีปลอดสารเคมีมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อลดการใช้สารเคมีและการปล่อยของเสียให้เหลือน้อยที่สุด
สุดท้ายนี้ เทคโนโลยี RO Infinity และ SmartOps ของ Gradiant จะรวมน้ำเสียที่ซับซ้อนจากการผลิตนิกเกิลและโคบอลต์ที่โรงงานแห่งใหม่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียสำหรับบริษัทเหมืองแร่ระดับโลก ส่งผลให้ประหยัดต้นทุนได้มากถึง 75% พร้อมรอยเท้าคาร์บอนและน้ำที่ลดลงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีทั่วไป
Prakash Govindan COO ของ Gradiant กล่าวว่า “การทำเหมืองเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนซึ่งซึ่งมีความท้าทาย ต่อพื้นที่ห่างไกล, จำนวนขยะที่มาก, คุณภาพน้ำที่ผันผวน, และผลิตภัณฑ์ปลายทางที่มีมูลค่าสูงที่ต้องการประสิทธิภาพการออกแบบและการดำเนินงานอย่างไม่หยุดยั้ง” Prakash Govindan ได้กล่าวต่อว่า “โอกาสที่แท้จริงสำหรับเทคโนโลยีน้ำในอุตสาหกรรมเหมืองแร่คือการกู้คืนทรัพยากรในน้ำเสียควบคู่กับ AI เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับผู้ประกอบการการขุดชั้นนำของโลกเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่ของการฟื้นฟูทรัพยากรอย่างยั่งยืน สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของ Gradiant เกี่ยวกับเคมีที่ซับซ้อนที่แฝงอยู่ในกระบวนการผลิตซึ่งจะถูกดำเนินการโดยเทคโนโลยีดิจิทัลการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองของเครื่อง”
Gradiant ออกแบบ สร้าง และดำเนินการโซลูชันเกี่ยวกับน้ำและดิจิทัลแบบครบวงจร เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลกซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะลดการใช้น้ำจืด เรียกคืนทรัพยากรอันมีค่าและเปลี่ยนสภาพน้าให้เป็นน้ำจืด
เกี่ยวกับ Gradiant
Gradiant เป็นบริษัทจัดการเกี่ยวกับน้ำที่ปรับใช้ชุดเทคโนโลยีเต็มรูปแบบของโซลูชันที่สร้างสรรค์เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมชั้นนำของโลกสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืนผ่านการใช้น้ำอย่างมีความรับผิดชอบ บริษัทให้บริการออกแบบ สร้าง และดำเนินการโซลูชันเกี่ยวกับน้ำและดิจิทัลแบบ end-to-end ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียมและแร่ธาตุที่สำคัญ และพลังงานหมุนเวียน โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมของ Gradiant ลดการใช้น้ำและน้ำเสียที่เกิดขึ้น เรียกคืนทรัพยากรที่มีค่าและเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำจืด บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในบอสตัน ก่อตั้งขึ้นที่ MIT และมีพนักงานมากกว่า 900 คนทั่วโลก เพิ่มเติมที่ gradiant.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้นและควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษา ต้นฉบับซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
ติดต่อบริษัท:
Felix Wang
รองประธานฝ่ายการตลาดของ Gradiant
fwang@gradiant.com
ที่มา: Gradiant