ระบบ CGM รูปแบบใหม่อันทันสมัยจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องคอยเจาะปลายนิ้วอีกต่อไป
สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2023
ในวันนี้ Dexcom, Inc. (NASDAQ:DXCM) ซึ่งเป็นผู้นำระดับสากลด้านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ได้ประกาศเปิดตัวระบบ CGM รุ่น Dexcom G6 ในสิงคโปร์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้ตั้งครรภ์ ทั้งยังประกาศแต่งตั้งให้ DKSH Singapore Pte Ltd เป็นผู้ให้บริการด้านการขาย การตลาด และการจัดจำหน่ายอีกด้วย
ระบบ Dexcom G6 นี้จะใช้เซนเซอร์ขนาดเล็กแบบสวมพกพาและตัวส่งสัญญาณเพื่อคอยวัดและส่งระดับน้ำตาลกลูโคสแบบไร้สายไปยังตัวรับสัญญาณหรืออุปกรณ์อัจฉริยะที่ใช้คู่กันได้ ผู้ป่วยจึงเห็นข้อมูลระดับน้ำตาลกลูโคสได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเจาะปลายนิ้ว † ระบบนี้ยังมาพร้อมการแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนอยู่ในขีดอันตราย
คุณ Scott Moss ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน Dexcom ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “การเปิดตัว Dexcom G6 ในสิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทเรา” ก่อนกล่าวต่อไปว่า “การเปิดตัวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ Dexcom CGM ให้บริการแก่ผู้คนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากการที่เราได้เปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ เราหวังว่าจะนำ Dexcom CGM เข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาคนี้ในอนาคตอันใกล้”
แอป Dexcom G6 สำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android ที่เข้ากันได้ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสกับผู้ติดตามได้สูงสุด 10 ราย ‡ ซึ่งช่วยให้ครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รัก และผู้ให้บริการดูแลด้านสุขภาพสามารถติดตามผู้ป่วยจากระยะไกลเพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Dexcom G6 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้:
- ช่วยให้ไม่ต้องเจาะนิ้วเพื่อปรับเทียบและตัดสินใจดำเนินการรักษาโรคเบาหวาน †
- ส่งค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth ไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่เข้ากันได้ * หรือไปยังตัวรับสัญญาณของ Dexcom โดยเว้นระยะ 5 นาที
- การแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือน Urgent Low Soon (จะถึงระดับต่ำฉุกเฉินในอีกไม่ช้า) ซึ่งสามารถเตือนผู้ใช้ล่วงหน้าได้ถึง 20 นาทีก่อนจะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemic) ระดับฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการป้องกันได้
- การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์กับแอป Dexcom G6 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสของตนกับผู้ติดตามได้สูงสุดสิบคน‡ ในการคอยติดตามระดับน้ำตาลกลูโคสของผู้ใช้เพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น
- เซนเซอร์ที่อยู่ได้ 10 วัน ช่วยให้รองรับการสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
- เครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็ก กะทัดรัดยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้สวมใส่ได้โดยไม่ดูโดดเด่นนัก
- ตัวติดเซนเซอร์อัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ติดเซนเซอร์ได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม
- ตัวรับสัญญาณที่ออกแบบขึ้นมาใหม่พร้อมหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส (จะใช้อุปกรณ์ตัวรับสัญญาณ/แสดงผลหรือไม่ก็ได้)
- เมมเบรนเซนเซอร์รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ใช้ยาอะเซตามีโนเฟนได้โดยไม่ส่งผลต่อค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้แต่อย่างใด §
ระบบ CGN รุ่น Dexcom G6 จะเชื่อมต่อกับแอป Dexcom G6 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ของ Apple หรือ Google Play store เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะของ Apple หรือ Android ที่เข้ากันได้ หรือผู้ป่วยจะดูค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้บนตัวรับสัญญาณที่มีหน้าจอสัมผัส Dexcom G6 (ติดตั้งหรือไม่ก็ได้) ซึ่งมีให้เลือกซื้อแยกต่างหากก็ได้
CGM รุ่น Dexcom G6 ได้รับการอนุมัติจาก HSA ของสิงคโปร์เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และชาวสิงคโปร์สามารถใช้งานได้แล้วในเดือนนี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom G6 ที่ www.dexcom.com/sg
เกี่ยวกับ Dexcom, Inc.
DexCom, Inc. ช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) อันทันสมัย บริษัท Dexcom ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการรักษาโรคเบาหวาน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และดำเนินงานอยู่ทั่วยุโรปรวมถึงเอเชีย/โอเชียเนียบางส่วน การรับฟังความต้องการของผู้ใช้ ผู้ดูแล และผู้ให้บริการช่วยให้ Dexcom สามารถลดความซับซ้อนและปรับปรุงการจัดการโรคเบาหวานทั่วโลกให้ดีขึ้นได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom ที่ https://www.dexcom.com/en-us/about-dexcom
_________________________
*โปรดดูรายการอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ที่ www.dexcom.com/compatibility
†หากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับน้ำตาลกลูโคสและค่าที่อ่านได้จาก G6 ไม่สอดคล้องกับอาการหรือที่คาดไว้ ให้ใช้เครื่องตรวจน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาโรคเบาหวาน
‡จำเป็นต้องมีแอป Follow แยกต่างหาก
§ค่าที่อ่านได้จาก G6 สามารถใช้เพื่อตัดสินใจด้านการรักษาโรคเบาหวานได้ เมื่อใช้ยาอะเซตามีโนเฟนไม่เกิน 1,000 มก. ทุก 6 ชั่วโมง การใช้ยาในปริมาณมากกว่านี้อาจส่งผลต่อค่าที่อ่านได้จาก G6
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
บุคคลติดต่อ
บุคคลติดต่อสำหรับสื่อ:
Patrick Ho: Sr. Manager, New Business Development
Patrick.ho@dexcom.com
James McIntosh: Director, Global Public Relations
James.mcintosh@dexcom.com
แหล่งที่มา: Dexcom, Inc.